นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับท่านเมื่อใด

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับท่านหากท่านเป็นผู้สมัครงานเพื่อเข้าทำงานกับแอคคอร์ด (“ผู้สมัครงาน”)

ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดที่แอคคอร์ดเก็บรวบรวมจากท่าน

(ก) แอคคอร์ดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) หลากหลายประเภทด้วยกัน รวมถึงชื่อและนามสกุล คำนำหน้าชื่อ เพศ ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล หมายเลขติดต่อ ประสบการณ์การทำงาน ประวัติการศึกษา ทักษะทางด้านภาษา ทักษะทางด้านอื่น ๆ เงินเดือน คุณสมบัติ ประสบการณ์ทางวิชาชีพ เลขทะเบียนใบอนุญาตทางวิชาชีพ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง รูปภาพ (ภาพถ่าย) ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ที่สถานที่ของแอคคอร์ด ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่ท่านอาจให้แก่แอคคอร์ดด้วยความสมัครใจในระหว่างขั้นตอนการสมัครงานกับแอคคอร์ด

(ข) หากผู้สมัครงานให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่แอคคอร์ด เช่น บุคคลอ้างอิง ผู้สมัครงานมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการให้แน่ใจว่าบุคคลเหล่านี้ได้รับแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนแล้ว และได้ให้ความยินยอมโดยชอบตามที่จำเป็นแล้ว หรือมิเช่นนั้น จะต้องมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่น ๆ ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่แอคคอร์ด

(ค) ในระหว่างขั้นตอนการสรรหาบุคลากร แอคคอร์ดอาจเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาและ/หรือหมู่โลหิตของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว”) หากข้อมูลนั้นปรากฏอยู่บนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน แอคคอร์ดไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวประเภทอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในขั้นตอนของการสรรหาบุคลากร ดังนั้น แอคคอร์ดขอแนะนำให้ท่านปิดและ/หรือลบข้อมูลดังกล่าวก่อนจะส่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และ/หรือเอกสารอื่นใดให้แก่แอคคอร์ด

เหตุใดแอคคอร์ดจึงต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ก) ความยินยอม:

(ข) ความจำเป็นตามสัญญา: เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของผู้สมัครงานในการสมัครงานกับแอคคอร์ดตามที่ผู้สมัครงานได้ยื่นประวัติส่วนตัวให้แก่แอคคอร์ด และเพื่อทำการนัดหมายสัมภาษณ์งาน และจัดการทดสอบที่จำเป็นเพื่อประเมิน และเพื่อให้ทราบถึงคุณสมบัติ ความเหมาะสม และความสามารถของผู้สมัครงานในการได้รับการว่าจ้างโดยแอคคอร์ด การที่ผู้สมัครงานไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนด หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น อาจส่งผลให้แอคคอร์ดไม่สามารถดำเนินการตามคำร้องขอของผู้สมัครงานในการสมัครงานกับแอคคอร์ดหรือคำร้องขออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคลากรได้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน

(ค) หน้าที่ตามกฎหมาย: เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือระเบียบที่ใช้บังคับ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของศาล หน่วยงานผู้มีอำนาจ และ/หรือหน่วยงานของรัฐ การที่ผู้สมัครงานไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนด หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น อาจส่งผลให้แอคคอร์ดไม่สามารถดำเนินการหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการสรรหาบุคลากรได้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรืออาจส่งผลให้แอคคอร์ดและ/หรือผู้สมัครงานกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือระเบียบที่ใช้บังคับ หรือคำสั่งของหน่วยงานผู้มีอำนาจ

(ง) ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย: ในบางกรณี แอคคอร์ดอาจจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตรวจหา และป้องกันการฉ้อฉล หรือการกระทำความผิดทางอาญาอื่น ๆ หรือเพื่อปกป้องทรัพย์สิน บุคลากร สิทธิ และประโยชน์ของแอคคอร์ด ซึ่งรวมถึงการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าติดตามท่านในระหว่างที่ท่านอยู่ในสถานที่ของแอคคอร์ด

(จ) สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย: แอคคอร์ดประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานในกรณีที่มีความจำเป็นสำหรับการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้ หรือปกป้องสิทธิเรียกร้องที่แอคคอร์ดมีตามกฎหมาย

แอคคอร์ดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากที่ใด

(ก) โดยตรงจากท่าน: โดยปกติ เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน (“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”) เมื่อท่านสมัครงานกับเราผ่านทางช่องทางออนไลน์ หรือเข้ามาสมัครงานด้วยตนเอง

(ข) บุคคลที่แนะนำท่าน: เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้อื่น เช่น พนักงานของเรา ในกรณีที่มีการแนะนำให้ท่านสมัครงานกับเรา

(ค) บุคคลภายนอก: เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ตัวแทน หรือบริษัทจัดหางาน

แอคคอร์ดเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ใด

(ก) แอคคอร์ดเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานแก่บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัทของเราทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสรรหาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับท่าน และการจ้างงานที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยให้แก่บุคคลที่อาจเป็นผู้จัดการ หรือผู้บังคับบัญชาของท่านเพื่อพิจารณาการสมัครงานของท่าน

(ข) แอคคอร์ดจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานให้แก่บุคคลภายนอกอื่นใด เว้นแต่ท่านจะได้รับการว่าจ้างกับแอคคอร์ด

(ค) แอคคอร์ดอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานแก่บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นใดเพียงเท่าที่จำเป็นต้องเปิดเผยตามกฎหมาย หรือระเบียบที่ใช้บังคับเท่านั้น

แอคคอร์ดโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังที่ใด

(ก) แอคคอร์ดอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในเครือ และสำนักงานระดับภูมิภาคซึ่งตั้งอยู่นอกประเทศไทย และซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างออกไปจากที่ได้กำหนดไว้โดยหน่วยงานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย แม้กระนั้นก็ตาม เราจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจได้ว่าเราจะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการใช้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกไปนอกประเทศไทย นอกจากนี้ เรายังจะดำเนินการให้แน่ใจได้ว่านิติบุคคลใด ๆ ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะใช้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม

(ข) ในทุกกรณี เราจะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ได้รับอนุญาตจาก และโดยเป็นไปตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น

แอคคอร์ดจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเท่าใด

(ก) สำหรับผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการว่าจ้าง แอคคอร์ดจะเก็บรักษาประวัติส่วนตัว และข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ไว้ในระหว่างขั้นตอนการสรรหาบุคลากรเป็นระยะเวลา 10 ปี หลังจากขั้นตอนการสรรหาบุคลากรของท่านได้สิ้นสุดลง หลังจากนั้น แอคคอร์ดจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

(ข) สำหรับผู้สมัครงานที่ได้รับว่าจ้างงาน แอคคอร์ดจะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านท่านให้ไว้ในระหว่างขั้นตอนการสรรหาบุคลากร ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ไปเก็บไว้ในแฟ้มพนักงาน

ท่านมีสิทธิใดบ้างเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้

(ก) ขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และร้องขอให้ทำการเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน

(ข) รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่ใช้งานได้โดยทั่วไป หรือสามารถอ่านได้ด้วยอุปกรณ์ รวมถึงขอให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น

(ค) ขอให้ดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

(ง) คัดค้านการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยดังกล่าวนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการทำการตลาดแบบตรง

(จ) ขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ฉ) ขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน หรือสมบูรณ์

(ช) ถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ หากแอคคอร์ดไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่นใดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป และ

(ซ) ร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านจะได้รับแจ้งทางอีเมล์ หรือทางไปรษณีย์ เราจะเปิดโอกาสให้ท่านให้ความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ใหม่ที่แตกต่างไปจากนโยบายฉบับนี้ หรือหากเป็นกรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาศัยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่นที่มิใช่ความยินยอม เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุดังกล่าว วันที่ที่ระบุอยู่บนนโยบายนั้นหมายถึงวันที่ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งล่าสุด

ท่านจะติดต่อเราได้อย่างไร

แอคคอร์ดมุ่งมั่นที่จะใช้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้และยึดมั่นในหลักความรับผิดชอบ ด้วยเหตุนี้ หากท่านมีข้อกังวลใจ หรือมีข้อสอบถามใด ๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีใช้สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเราที่

บริษัท แอคคอร์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด
33/2-8 ซอยรองเมือง 4
แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ที่อยู่อีเมล: dpo@accordhenryschein.com

หมายเลขติดต่อ: 02-119-4900 ext. 3104

หรือท่านอาจติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราที่ (ถ้าต้องมี)
คุณกุลกัลยา รุกขะวัฒน์
หมายเลขติดต่อ: 02-119-4900 ext. 3104
เราจะดำเนินการตอบกลับท่านโดยทันที และดำเนินการทุกอย่างที่สามารถกระทำได้เพื่อแก้ไขข้อกังวลใจของท่าน